ในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน และทำให้ได้ผลผลิตที่มีประสิทธิภาพนั้น เป็นเรื่องของการตัดสินใจที่เกี่ยวกับเงินที่ต้องจ่าย และปริมาณการใช้ของสิ่งที่นำเข้าสู่กระบวนการของการดำเนินงาน ผู้บริหารมีความต้องการที่จะจ่ายเงินน้อยที่สุด และให้ได้มาซึ่งผลผลิต Outputs ที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ ในขณะเดียวกันก็ต้องการใช้วัตถุดิบ Inputs ในปริมาณที่น้อยที่สุดด้วย
แล้วผู้บริหารจะทำการควบคุมการจ่ายเงินและปริมาณการใข้วัตถุดิบได้อย่างไร มีวิธีการที่นำมาใช้โดยอาศัยขอมูลทางการบัญชี คือ การใช้ระบบต้นทุนมาตรฐาน Standard Cost ควบคู่ไปกับการพัฒนาและปรับปรุงระบบการทำงานแบบทันเวลาพอดี Just in Time การปรับระบบโครงสร้างของธุรกิจ Reengineering และการศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลา Time and Motion Study
ต้นทุนมาตรฐาน Standard Costs
มาตรฐาน คือ สิ่งที่ถูกกำหนดเอาไว้เพื่อนำไปใช้ในการประเมินผลการปฎิบัตงาน ดังนั้นมาตรฐานเป็นคำที่กว้างมาก ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่นำไปใช้ ในทางบัญชีนั้น คำว่ามาตรฐานจะเกี่ยวข้องกับปริมาณและต้นทุนของสิ่งต่างๆ ที่ถูกนำไปใช้ในการผลิตเพื่อให้ได้มาซึี่งสินค้า หรือการให้บริการ
มาตรฐานของปริมาณและต้นทุนจะถูกกำหนดจากฝ่ายบริหาร คือ วัตดุดิบ ค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายในการผลิต มาตรฐานของปริมาณสามารถจะบอกได้ว่าต้นทุนนั้นจะมีจำนวนเท่าไร
มาตรฐานของปริมาณและต้นทุน จะใช้เป็นฐานในการเปรียบเทียบกับต้นทุนของวัตถุดิบ ค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายในการผลิตที่เกิดขึ้นจริง เพื่อประเมินถึงประสิทธิภาพในการทำงาน ถ้ามีความแตกต่างเกิดขึ้น ผลต่างนั้นจะใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การกำหนดต้นทุนมาตรฐาน Setting Standard Costs
การกำหนดต้นทุนมาตรฐานนั้น จะต้องรวบรวมความคิดจากบุคคลหลายฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องและมีความรับผิดชอบต่อการกำหนดราคา และปริมาณการใช้ของ เช่น ฝ่ายจัดซื้อ วิศวกรผู้ควบคุมโรงงาน หัวหน้างาน ผู้จัดการฝ่ายผลิต นักบัญชีบริหาร หรือแม้แต่พนักงานในฝ่ายผลิต เป็นต้น
การที่จะกำหนดต้นทุนมาตรฐานนั้น จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลของต้นทุุนที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อนำมาจัดทำ ณ ระดับกิจกรรมที่แตกต่างกันไป ข้อมูลในอดีตจะถูกนำมาปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน และใช้เป็นสิ่งคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
ต้นทุนมาตรฐานในอุดมคติ Ideal Standard Costs
เป็นสิ่งที่ได้มาจากสภาพแวดล้อมที่ดีของการทำงาน ไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องจักรเสีย หรือปัญหาอื่นๆ ที่ทำให้งานต้องหยุดชะงัก พนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ต้นทุนมาตรฐานในอุดมคติ เป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน ที่จะทำงานได้ประสบผลสำเร็จตามที่กำหนดไว้ 100% แต่ในทางเดียวกันการใช้ต้นทุนมาตรฐานในอุดมคติก็อาจทำให้พนักงานหมดกำลังใจได้เหมือนกัน เมื่อพนักงานได้พยายามทำงานอย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังไม่ถึงมาตรฐานที่กำหนดไว้
ต้นทุนมาตรฐานในทางปฏิบัติ Practical Standard Costs
เป็นการกำหนดต้นทุนมาตรฐานโดยคิดถึงความเป็นจริงในทางปฏิบัติ ซึ่งเครื่องจักรไม่ได้ทำงานโดยใช้กำลังการผลิตสูงสุด แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณความต้องการสินค้าในตลาด พนักงานปฏิบัติงานโดยมีช่วงเวลาของการหยุดพักตามระเบียบ ความตั้งใจในการปฏิบัติงานเมื่อเทียบกับภาวะของงานแล้วถือเป็นความสำเร็จที่เป็นจริงในทางปฏิบัติ
ความแตกต่างระหว่างต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงกับต้นทุนมาตรฐานในการปฏิบัติงานนั้นมีประโยชน์ที่จะทำให้ผู้บริหารได้ทราบถึงความผิดปกติในการปฏิบัติงาน และสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการดำเนินงานหรือคาดการณ์ต้นทุนต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ ในขณะที่ผลต่างระหว่างต้นทุนที่เกิดขึ้นกับต้นทุนมาตรฐานในอุดมคตินั้น จะไม่สามารถนำมาใช้ในการวางแผนงานได้ เนื่องจากผลต่างนั้นเป็นการเปรียบเทียบกับมาตรฐานที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น